April Fools กับศีลข้อ 4 นี่เราจะทำยังไงดี? อยากสนุกในวันที่เค้าโกหกกัน แต่ก็กลัวบาป..มันจะผิดศีลข้อ 4 มุสาวาท มั๊ย? เนื่องจากวันนี้ 1 เมษายนเป็นวันโกหกโลกที่ฝรั่งเรียว่า “April Fools’ day” หรือที่คนไทยเราเรียกสั้นๆ ว่า “April Fools” ซึ่งในวันนี้ฝรั่งจะสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาหลอกเพื่อนๆ หรือ คนรอบข้างเพื่อความสนุกสนาน แต่ในความสนุกสนานนั้นอาจจะมีผู้เดือดร้อนเกิดขึ้นเพราะความไม่รู้ก็เป็นได้ คำถามข้างต้นจึงได้บังเกิดขึ้นมาในหัวสมองของผม
เรามาพูดถึงศีลข้อที่ 4 ของพุทธศาสนากันหน่อย ซึ่งก็คือ…
ศีลข้อนี้เรียกสั้นๆว่า “มุสาวาท” ซึ่งหลายๆ คนเข้าใจว่าห้ามโกหก แต่จริงๆ แล้วมุสาวาท นั้นหมายรวมถึงการพูดเรื่องไม่จริงให้เป็นเรื่องจริง การพูดแล้วทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ทำให้ผู้อื่นเสียผลประโยชน์ การพูดแล้วตัวเองได้รับประโยชน์ด้วย
ดังนั้นการพูด หรือการกระทำใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นเชื่อในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพื่อที่จะให้ตัวเองได้ประโยชน์ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เสียหาย หรือเสียประโยชน์โดยไม่ได้ผลั้งเผลอ หรือ พูดง่ายๆ ก็คือ โกหกโดยเจตนาหรือตั้งใจโกหกนั่นเอง ถือเป็นการผิดศีลข้อ 4
แต่มีบางตำราอธิบายเพิ่มเติมว่าการที่จะผิดศีลข้อ 4 แบบสมบูรณ์จะต้องมีครบองค์ประกอบต่อไปนี้..
นั่นแปลว่าถึงแม้คุณมีเจตนาที่จะโกหกแต่ไม่มีใครเชื่อ ถือว่าไม่บาป
ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะการที่คุณโกหก (จะมีใครเชื่อหรือไม่มีใครเชื่อก็ตาม) เป็นบาปทั้งสิ้น อย่างน้อยในใจของคนผู้นั้นก็เป็นบาปแล้ว เค้ารู้อยู่แก่ใจว่าได้ทำการโกหกแบบมีเจตนา และแน่นอนการโกหกนั้นจะต้องมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ (ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ) เพียงแต่กระทำไม่สำเร็จเท่านั้นเอง
นอกจากนั้นมันยังเป็นการทำให้จิตใจชาชิน ไม่ละอายต่อการทำบาป
หลายคนอาจจะบอกว่า ผมโกหกเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ใครๆ ฟังแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง..มันบาปตรงไหน?
การกระทำแบบนี้ไม่ใช่ “มุสาวาท” แต่เป็น “สัมผัปปลาปะ”
สัมผัปปลาปะ คือการพูดเพ้อเจ้อ พูดเรื่อเปื่อย หรือการกระทำใดๆ ในสิ่งที่เป็นความจริง หรือไม่เป็นความจริงก็ตาม เพียงเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ไร้สาระ ไม่มีใครได้หรือเสียประโยชน์จากการพูด หรือการกระทำนั้น จึงไม่นับว่าผิดศีลแต่เป็นอกุศลกรรม (คือการกระทำที่ไม่ได้เป็นกุศล แต่ไม่ใช่การทำบาป) ครับ
ส่วนการด่าว่าผู้อื่น ด้วยคำหยาบหรือพูดสุภาพแต่มีเจตนาให้ผู้อื่นโกรธ เจ็บใจ เดือดร้อนใจ นับเป็น “ผรุสวาจา” ซึ่งก็ไม่นับว่าผิดศีลแต่เป็นอกุศลกรรมเหมือนกับ “สัมผัปปลาปะ”
ดังนั้นถ้าถามผม ผมว่าหากคุณอยากจะสนุกในวัน April Fools’ day ก็ขอให้ดูที่เจตนาของตนเองดีๆ ว่ากำลังทำเพื่ออะไร เพื่อให้มั่นใจว่าการกระทำของเราจะเป็นเพียง “สัมผัปปลาปะ” เท่านั้นไม่ใช่ “มุสาวาท”
แต่ต้องระวังดีๆ นะครับ..เพราะถ้ามีคนเชื่อและเดือดร้อนหรือเสียผลประโยชน์ขึ้นมา คุณจะผิดศีลข้อ 4 “มุสาวาท” ได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้..ขอฝากเอาไว้ให้คิดกัน… ผมเคยได้ยินคำกล่าวประโยคหนึ่ง ซึ่งผมฟังแล้วก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง คนเราถ้าไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีก็ไม่จำเป็นจะต้องโกหกอะไร ดังนั้น บางครั้งการโกหกก็คือผลจากบาปอื่นๆ ที่ได้กระทำไว้นั่นเอง
ไม่มีคนชั่วที่ไม่โกหก