สาเหตุที่ Jobs จะไม่ชอบ : มันไม่สร้างปรากฏการณ์ WOW และมันไม่ทำให้คนดูตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว
ใช่ครับ…มันเป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่ใช่วิถีของ Steve Jobs !!!
มาดูวิธีการและความแตกต่างในการรับมือปัญหาของทั้งสองคนดูบ้าง ตัวอย่างเช่น เมื่อมีปัญหาเรื่อง Antenagate ของ iPhone 4 คือ สัญญาณโทรศัพท์จะลดลงหากคุณไปจับตรงรอยต่อข้างๆ ตัว iPhone 4 อันมีสาเหตุมากจากการออกแบบที่เอาตัวเครื่องมาเป็นเสารับสัญญาณนั่นเอง ตอนแรก Apple บอกว่า “คุณถือเครื่องไม่ถูกวิธีเอง แค่ถือให้ถูกวิธี ปัญหาก็จะหมดไป” เพราะ Jobs ไม่เคยยอมให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ถูกมองว่า “ห่วยแตก” จึงเถียงอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ในที่สุด Jobs ก็ยอมรับว่า Apple พลาดในการออกแบบ และต้องแจก Bumper ให้ลูกค้าฟรี แต่ก็ไม่วายบอกว่าปัญหานี้ไม่ได้มีแค่เฉพาะใน iPhone เท่านั้น โทรศัพท์อื่นๆ ก็มีปัญหาเดียวกัน
สาเหตุที่ Jobs จะไม่ชอบ : ทำให้ภาพลักษณ์ของ Brand ไม่แข็งแรงเหมือนก่อน
Keynotes คือกลยุทธ์ทางการตลาดอันสำคัญที่ Apple ใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ มันเคยเป็นปรากฏการณ์ที่คนทั้งโลกเฝ้ารอ
Steve Jobs เป็นอัจฉริยะในการนำเสนอสินค้า เมื่อยามที่อยู่บนเวที Jobs เปรียบเสมือนพ่อมดที่ใช้เวทมนต์สะกดคนดูให้คล้อยตาม ซึ่งลักษณะจะเป็นแบบ one-man-show หรือ เดี่ยวไมโครโฟน
เมื่อยามที่ Jobs เริ่มมีสุขภาพไม่เอื้ออำนวย จึงมีการเอาผู้บริหารของ Apple หรือ ผู้บริหารของคู่ค้า มาเสริมในเรื่องของรายละเอียดของสินค้าบ้าง แต่ Jobs จะเป็นคนทำสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ Demo หรือ การสาธิตการทำงานของตัวผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองเสมอ ดังนั้น Jobs เป็นพระเอกของงานอย่างชัดเจน ซึ่งเขาเป็นผู้ใช้เวลาประมาณ 75% จากเวลาทั้งหมดของงานเลยทีเดียว
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : ผลิตภัณฑ์ดูไม่เจ๋งและไม่น่าสนใจเท่าที่ควร
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : สินค้า Apple จะไม่โดดเด่นและไม่แตกต่างกับสินค้าของคู่แข่ง
ปี 1997 ในวันที่ Steve Jobs ได้กลับเข้ามาทำงานที่ Apple อีกครั้ง เค้าบอกกับผู้บริหารและพนักงานของ Apple ว่าสิ่งที่ทำให้ Apple ตกต่ำและแพ้ Microsoft อย่างไม่เป็นท่าก็เพราะ …
ผลิตภัณฑ์ของ Apple ห่วยแตกสิ้นดี
Jobs ยกเลิกการผลิตสินค้าหลายๆ ตัวทั้งที่วางจำหน่ายไปแล้วและกำลังจะวางจำหน่ายในตลาด และทำการปฏิวัติผลิตภัณฑ์ของ Apple ใหม่ทั้งหมด
Jobs ใช้กุลยุทธ์หลักคือการให้ประสบการณ์ในการใช้งาน (User Experience) ที่ดีกับลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมภายใต้แนวคิด “Think Different”
และผลลัพธ์ก็คือ ผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมอย่าง iMac, iPod, iPhone, และ iPad ที่ทั้งสวยงาม ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย จน Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
แต่หลังจากการจากไปของ Jobs การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple มีไม่บ่อยเท่าสมัยที่ Jobs ยังมีชีวิตอยู่ และเราก็ได้เห็น MacBook Air, Mac Mini และ iMac ที่มีหน้าตาแบบเดิมมา 3-5 ปีแล้ว
แม้แต่ iPhone 7 เองก็หน้าตามเหมือนเดิมมา 3 ปีแล้ว คือ iPhone 6 และ 6 plus ในปี 2014, iPhone 6s และ 6s Plus ในปี 2015, iPhone 7 และ 7 Plus ในปี 2016 มีรูปลักษณ์ภายนอกแทบจะเหมือนกัน 100%
ซึ่งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ถึงแม้ Jobs จะเคยกล่าวไว้ว่า “มันไม่มีตลาดสำหรับ iPhone จอใหญ่ และ iPad จอใหญ่” ใช่ครับ … ในวันนี้ Apple ผลิตทั้ง iPhone และ iPad จอใหญ่ออกมาจำหน่าย ซึ่งผมเชื่อว่า Jobs คงยอมกัดลิ้นตัวเองปรับกลยุทธ์ไปตามกลไกของตลาด แล้วผลิตมันออกมาขายเช่นกัน ดังนั้นผมจะไม่พูดถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ แต่จะพูดถึงผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวที่ไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่หลายๆ ตัวเมื่อถูกเปิดตัวออกมา ก็แทบจะไม่มีอะไรทำให้ผู้บริโภคหลงใหลได้เลย และที่ข่าวร้ายที่สุดก็คือ ผลิตภัณฑ์อันห่วยแตก ของ Apple กำลังกลับมาให้เราได้เห็นกันอีกแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นผลลัพธ์มาจากเหตุผล 4 ข้อในหมดทั่วไป ที่ผมพูดถึงในด้านบนก็ได้
ลองมาดูตัวอย่างของผลิตภัณฑ์อันห่วยแตก เหล่านั้นกัน …
(ขอขอบคุณภาพ iPhone Smart Battery Case จาก Apple.com)
iPhone Smart Battery Case ออกมาสู่ตลาดพร้อมๆ กับ iPhone 6 เมื่อเดือนกันยายน 2014 ผมไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือผลิตภัณฑ์ของ Apple มันดูเชย เทอะทะ กระจอก และ ขาด DNA ของ Apple ไป
และทันทีผมได้เห็นมัน ผมนึกถึง Nokia 2110 โทรศัพท์มือถือในระบบ GSM เครื่องแรกของ Nokia ที่วางจำหน่ายเมื่อ 20 ปีก่อน
iPhone Smart Battery Case นอกจากจะไม่สวยแล้ว การออกแบบอื่นๆ ก็ยังห่วยได้อีก เช่น มีไฟ LED บ่งบอกสถานะของ battery อยุ่ด้านในของเคส (เพื่อ?) หรือ การทำให้เสียบหูฟังได้ยากเมื่อใส่เคสนี้เข้าไป เป็นต้น
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : ย้อนยุคหรอ? ป่าวเลย … มันคือความล้มเหลวในการออกแบบต่างหาก
สำหรับ Apple Pencil มีอยู่ 2 ปัญหา คือ …
Steve Jobs เป็นคนที่เกลียด Stylus มากดังที่เค้าได้กล่าวเอาไว้ในวันที่เค้าเปิดตัว iPhone ตัวแรกในปี 2007 และ Apple ก็ไม่เคยผลิต Stylus ออกมาเลย จนกระทั่งในปี 2015 Apple ทำการเปิดตัว iPad Pro และแนะนำให้ใช้ร่วมกับ Apple Pencil
Apple Pencil ถูกออกแบบมาอย่างดีเยี่ยมในการใช้งาน แต่เมื่อจำต้องชาร์จแบตให้มัน … ความอุบาทว์ก็เกิดขึ้น คุณต้องเอามันเสียบเข้าไปที่ก้นของ iPad ดูความห่วยแตกได้จากรูปข้างบน มันทั้งเปลืองแบต iPad ทั้งเสี่ยงต่อการหัก และ … ทุเรศ
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : Jobs เกลียด Stylus และ นี่คือการออกแบบที่คิดไม่จบ
(ขอขอบคุณภาพ Apple iPad Pro Smart Keyboard จาก redmondpie.com)
Accessory สำหรับ iPad Pro อีกหนึ่งตัวที่ถูกรวมอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อันห่วยแตก ทุกอย่างดูดีแต่เมื่อคุณพับมันเก็บ มันไม่เรียบครับ อาการเหมือนกับ iPhone Smart Battery Case เลย
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : พวกคุณเรียกมันว่า “Smart” ได้ยังไง?
(ขอบคุณภาพ MacBook จาก Apple.com)
Apple เลิกผลิต MacBook ไปในปี 2012 แต่ในปี 2015 ก็กลับมาผลิต MacBook อีกครั้ง โดยครั้งนี้มีขนาดเดียวคือ หน้าจอ Retina ขนาด 13″
MacBook รุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ขนาดบางเฉียบ น้ำหนักเบา Keyboard และ Trackpad แบบใหม่ พร้อมกับมีสีให้เลือกถึง 4 สีคือ Space Gray, Silver, Gold, Rose Gold
ปัญหาของ MacBook คือมันมีช่องที่ใช้เสียบอุปกรณ์ต่างๆ เพียง 2 ช่อง ช่องแรกใช้เสียบหูฟัง ช่องที่สองคือช่อง USB C ที่ใช้สำหรับเสียบสายชาร์จ จอ หรืออุปกรณ์ทุกอย่างที่คุณต้องการต่อกับ MacBook ตัวนี้
แต่อนิจจา! มันมีอยู่แค่พอร์ตเดียว ถ้าเสียบที่ชาร์จอยู่แล้วจะต่ออย่างอื่นได้ยังไง? แถมอุปกรณ์ที่เป็น USB C ก็ยังมีอยู่ไม่มาก แล้วถ้าเป็น USB แบบเก่าจะต่อยังไง?
คำตอบคือ … ใช้ Adaptor
(ขอบคุณภาพ USB C Adaptor จาก apple.com)
แน่นอน … มันแก้ปัญหาได้ แต่ในแง่ของความสะดวกสบายล่ะ … มันไม่มีเลยครับ
และที่เลวร้ายสุดหากคุณไม่มี Adaptor ก็คือ…
MacBook กับ iPhone ของคุณเชื่อมต่อกันด้วยสายไม่ได้
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : มันให้ User Experience ที่ไม่ดีเอามากๆ
(ขอบคุณภาพ Apple Magic Mouse จาก www.geek.com)
ข่าวดีก็คือ Apple Magic Mouse ไม่ต้องใส่ถ่าน เพราะคุณสามารถชาร์จ Mouse ตัวนี้ได้ด้วยการต่อสายชาร์จเข้ากับพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
แต่อนิจจา .. คุณไม่สามารถใช้งานมันได้ระหว่างที่ชาร์จแบต ดูจากรูปก็คงเข้าใจนะครับว่า ชาร์จไปทำงานไปไม่ได้ และยังเสี่ยงต่อการหัก เสียหายด้วย
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : Mouse (หนู) ตัวนี้ขี้เกียจเกินไป
การที่ Apple เอารูหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกจาก iPhone 7 ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักหน่วง ล่าสุดผมได้ลองอ่านความเป็นไปของเรื่องนี้ ปรากฏว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนกลัวกัน ดังนั้นเรื่องการเอารูหูฟังปกติออกไปอาจจะไม่ใช่ประเด็น เพราะผู้ใช้ iPhone ยังสามารถฟังเพลงได้อย่างไม่ลำบากนัก
แต่มันมีประเด็นก็ตรงที่ … เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการฟังเพลงโดยใช้หูฟังที่ Apple ให้มาพร้อมกับ iPhone และชาร์จ iPhone ของคุณไปด้วย
เสียใจด้วย … คุณทำไม่ได้ครับ
(ขอบคุณภาพ iPhone 6 vs iPhone 7 จาก www.oregonlive.com)
จากภาพจะเห็นว่า iPhone 7 (ตัวล่าง) ไม่มีรูเสียบหูฟัง จึงต้องเสียบเข้าไปที่ช่อง Lighting ที่เอาไว้เสียบชาร์จ iPhone 7 ดังนั้นเมื่อเสียบสายชาร์จเข้าไปแล้วจึงไม่สามารถ เสียบหูฟังได้อีก
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : ไม่ได้นึกถึง User Experience เลย
Airpods คือหูฟังไร้สาย ที่ Apple นำมาตอบโจทย์การเอารูปูฟังออกจาก iPhone 7 .. มันกำลังบ่งบอกว่า Apple มุ่งหน้าสู่ Wireless เต็มตัว ผมไม่ติดใจกับเรื่องกลยุทธ์ คุณภาพ ราคา หรือ เรื่องอื่นๆ ของ Airpods แต่ที่ผมอยากจะพูดถึงคือ Design หรือ การออกแบบที่เหมือนกับการเอา Earpods มาตัดสายทิ้ง เมื่อสวมใส่กับหูแล้วมันดูพิลึกจริงๆ
( ขอขอบคุณภาพ Airpods จาก apple.com)
ยังดีที่ถ้าคุณทำหายไปข้างหนึ่ง Apple ไม่ทำให้คุณต้องซื้อใหม่ทั้งสองข้าง คุณสามารถซื้อแค่ข้างเดียวได้ แต่หน้าตามันก็เป็นอะไรที่ประหลาดอยู่ดี
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : หน้าตามันดีกว่านี้ก็ได้มั๊ย?
Siri คือ Intelligent Personal Assistant (IPA) หรือผู้ช่วยอัจฉริยะ ซึ่งถือกำเนิดพร้อมกับ iOS 5 และ iPhone 4S เมื่อปี 2011 เท่ากับ Siri มีอายุ 5 ปีกว่าแล้ว แต่พัฒนาการของเด็กคนนี้เป็นไปอย่างช้าๆ ช้าขนาดที่ว่า IPA ของคู่แข่งอย่าง Cortana ของ Microsoft และ Google Assistant ของ Google ที่ถือกำเนิดทีหลัง ยังสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่า Siri แล้ว
ปัญหาใหญ่ของ Siri คือเรื่องภาษา ถึงแม้มันจะรองรับได้มากถึง 20 ภาษา แต่ด้วยสำเนียงการพูดที่หลากหลายในแต่ละภาษา Siri มักจะไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไรกับมัน
Siri เกิดมาพร้อมกับความคาดหวังมหาศาล ถึงแม้ Siri ในวันนี้จะมีความสามารถมากขึ้น แถมยังสามารถใช้งานด้วย Mac ได้ด้วย แต่ Siri ก็ยังมีพฤติกรรมแบบแปลกๆ ขำๆ ออกมาให้เห็นกันบ่อยๆ จนสื่อในต่างประเทศใช้คำว่า …
“It worked annoyingly well …มันทำงานได้ดีอย่างน่ารำคาญ”
ทำไม Jobs ไม่ชอบ : Jobs เป็นคนใจร้อน รอนานไม่ได้
สิ่งเหล่านี้คือ อะไรที่ทำให้ Apple ดูแย่ลง ..
บางเรื่องดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
… แต่มันไม่ใช่ DNA ของ Apple
บางเรื่องดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาถาวร
… แต่ Apple ไม่เคยเป็นแบบนี้
หรือนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งการล่มสลายของ Apple
แน่นอน … ถ้า Steve Jobs ยังอยู่ …
เค้าจะไม่ยอมให้ Apple ทำแบบนี้