เรากำลังก้าวเข้าสู่ AEC อย่างเป็นทางการ แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ หลายๆ คนอาจจะพยายามพูดภาษาอังกฤษให้คล่องให้เก่ง แต่ก็ไม่ยังไม่ได้เรื่องซักที เห็นฝรั่งเดินมาก็ขาสั่นแล้ว ผมขอแนะนำ..5 เคล็ดลับพูดภาษาอังกฤษ เก่ง ใน 1 สัปดาห์
รับรองว่าคุณจะพูดภาษาอังกฤษเก่งหรืออย่างน้อยก็เก่งขึ้นแน่นอน
ถึงผมไม่ใช่คนพูดภาษาอังกฤษเก่งอะไรมากมาย แต่ก็สามารถใช้สื่อสารประจำวันและทำธุรกิจได้แบบไม่กลัวและไม่อายฝรั่ง ผมเคยผ่านชีวิตที่วันนี้พูดแต่ภาษาไทย แต่พอตื่นขึ้นมาอีกวันหนึ่งไม่มีใครพูดภาษาไทยเลย ทุกคนพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น ผมได้เคยผ่านความกลัว ความอาย ความอึดอัดในการสนทนาภาษาอังกฤษเหมือนกับที่หลายๆ คนกำลังเป็นอยู่ แต่ผมก็สามารถผ่านมันมาได้และทุกคนก็สามารถผ่านมันไปได้เช่นกัน และนี่คือ…
วิธีเดียวที่คุณจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีคือ การอ้าปากของคุณแล้วพูดภาษาอังกฤษออกมา
คุณต้องกล้าที่จะพูด และ ไม่อายกับการพูดผิดๆ ถูกๆ อย่ารอให้ฝรั่งเดินเข้ามาทัก แต่ให้ทักมันก่อนเลย มันเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเราเอง
และคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอ่ยขอโทษออกตัวว่าภาษาอังกฤษของคุณไม่แข็งแรง…
เชื่อผมเถอะว่าฝรั่งแม่งไม่สนใจหรอก
จำไว้ครับว่าการที่เราไม่กล้าที่จะพูดประเด็นของเราออกมา ถือเป็นการล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นพูดไปเถอะ..ฝรั่งไม่เข้าใจ เดี๋ยวเค้าก็ถามเองว่าคุณหมายถึงแบบนี้หรือแบบนั้น ถึงมันจะลำบากซักหน่อย แต่คุณก็จะไปถึงจุดหมายของการสนทนาได้ในที่สุด
และทุกครั้งที่คุณทำแบบนี้ มันคือการฝึกหัด มันคือการได้เรียนรู้จากคู่สนทนาว่า…
อ๋อ..ถ้าเราต้องการพูดแบบนี้ มันต้องพูดไอ้ประโยคที่เค้าพึ่งพูดเมื่อกี้นี้นี่เอง
ทำไปบ่อยๆ รับรองคุณจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ครับ
อ้อ..เพื่อให้ได้ผลสูงสุด..ควรจะเลือกก่อนว่าอยากพูดสำเนียงอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย หรืออะไรก็ว่าไป แล้วก็พยายามเสพย์สื่อสำหรับอ่านและฟังของประเทศนั้นๆ เป็นหลักนะครับ
ตั้งแต่ผมเกิดมาไม่เคยมีฝรั่งคนไหนบอกว่า “เมื่อกี๊ You พูดผิด Grammar นะ”
ยกเว้นครูที่สอนผมพูดภาษาอังกฤษ
เพราะเรากำลังพูดถึง “Speaking” ไม่ใช่ “Writing” ครับ
คนที่เก่ง Grammar มากๆ ไม่ได้แปลว่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีนะ และคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องเก่ง Grammar ด้วย
คุณไม่เชื่อใช้มะ…ถ้างั้นผมขอถามว่า
ระหว่างเด็กอเมริกันวัย 10 ขวบกับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษของคุณสมัยเรียนมัธยม คุณว่าใครพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่ากัน?
ถ้าคุณมัวแต่นึกจะพูดให้ตรงหลัก Grammar จะทำให้ประโยคที่ออกมาไม่ต่อเนื่อง ไม่ไหลลื่น ไม่เป็นธรรมชาติ การพูดที่ดีต้องออกมาอย่างธรรมชาติเหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองจากสมองที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เหมือนเด็กอเมริกันวัย 10 ขวบที่พึ่งเรียน Grammar ได้ไม่นาน
ลองนึกถึงเวลาคุณพูดภาษาไทย…เมื่อเพื่อนพูดมามา เราไม่ต้องมานึกเรียบเรียงประโยค ไม่สนใจหลักภาษา แต่เราพูดออกไปโดยอัตโนมัติ อย่างเป็นธรรมชาติ และเราก็พูดผิดหลักภาษาอยู่เป็นประจำ
การพูดภาษาอังกฤษก็เช่นกัน..ให้มันออกมาอย่างธรรมชาติ ไม่ต้องไปสนใจ Grammar
จะผิด จะถูก ก็ช่างมัน
เมื่อคุณพูดไปแล้ว คุณจะรู้เองว่าเมื่อกี้เราพูดผิด Grammar ไป ให้ลองนึกในใจ (หรือถ้าสามารถพูดออกมาเลยก็ยิ่งดี) ว่าสิ่งที่ถูกควรจะเป็นยังไง แต่นี้รับรองคุณจะเก่งและพูดถูกมากขึ้นเรื่อยๆ
การสนทนาจะเป็นไปแบบลื่นไหล อัตโนมัติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Fluent ได้…ด้วยการฝึกฝน
การพูด การสนทนาถือเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนสามารถฝึกฝนได้
และไม่ว่าจะเป็นทักษะอะไรในโลก ยิ่งฝึกบ่อย ยิ่งใช้บ่อย ก็จะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นขอให้ฝึก ในทุกสถานที่และทุกเวลาที่มีโอกาส
ผมจำได้ว่าสมัยก่อนผมจะหัดพูดประโยคต่างๆ ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องน้ำ หรือขณะที่ผมกำลังเดินอยู่บนถนน ผมก็พูดกับตัวเอง..โต้ตอบกับตัวเอง หรือขณะที่ฟังวิทยู ผมก็พูดตามดีเจ หรือขณะที่กำลังดูหนัง ผมก็เลือกเป็นพระเอกแล้วพูดตามบทพระเอกตลอดทั้งเรื่อง หรือตอนเย็นว่างๆ ผมก็ไปเล่นกับเด็กฝรั่งวัย 3-4 ขวบที่สนามเด็กเล่น
มันคือการเพิ่มทักษะในการพูด และกลายเป็นฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นอัตโนมัติในที่สุด
แต่ต้องระวังนะครับ…อย่าฝึกกับคนที่พูดถูกๆ ผิดๆ นะครับ เพราะนั่นจะเป็นการสร้างนิสัยในการพูดผิดของคุณไปโดยปริยาย
ลองนึกภาพว่ามีชาวต่างชาติคนหนึ่งไปหัดเรียนการพูดภาษาไทยกับชาวพม่า แล้วชาวต่างชาติผู้นั้นจะพูดภาษาไทยดีได้ยังไง?
อันนี้เป็นทีเด็ดที่ผมได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวอเมริกันที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษของผม และผมบอกได้เลยครับว่า
นี่คือการฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ได้ดีที่สุด และทำให้พูดเป็น เร็วกว่าวิธีอื่นๆ
เค้าบอกว่า…
เวลาที่คุณคิด ให้ลองคิดเป็นภาษาอังกฤษอย่าคิดเป็นภาษาไทย