Blog

การออกเสียง ed ที่ถูกต้อง เป็นยังไง? เพราะการออกเสียงไม่ได้ง่ายเหมือนการเขียนที่เพียงเติม ed ตรงท้ายคำกิริยา หรือ Verb ในภาษาอังกฤษ  เจ้า verb ตัวนั้นก็แปลงกายทันทีจาก Present Simple Tense ไปเป็น Past Simple Tense และ/หรือ Past Participle (ไอ้ที่เราเรียกกันอย่างติดปากตอนเด็กๆ ว่า Verb ช่อง 1, Verb ช่อง 2 และ Verb ช่อง 3  นั่นแหละ)  …ผมกล้าพูดเลยว่าคุณไม่มีทางออกเสียงถูก ถ้าไม่มีใครเคยสอนคุณ

มาเริ่มกัน..ผมอยากให้คุณลองออกเสียง verb ช่อง 2 เหล่านี้ดู….

  • texted
  • headed
  • bombed
  • trashed
  • liked

คำตอบ…คนส่วนใหญ่ (รวมคุณด้วยป่าว?) เมื่อเห็น ed จะออกเสียงราวกับว่า ed เป็น “สระเอ็ด”

  • texted ออกเสียงเป็น “เท็กซ์-เต็ด”  …. ซึ่งถูกต้องนะคะนักเรียน
  • headed ก็เป็น “เฮด-เด็ด”     … เก่งมากค่ะนักเรียน
  • bombed ก็จะออกกันว่า “บอม-เบ็ด” …. ผิดนะคะ..นักเรียน
  • trashed ก็จะได้ “แทรช-เช็ด” … ผิดอีกแล้วค่ะนักเรียนขา
  • liked จะอ่านว่า “ไล-เค็ด” … นักเรียนคะ ไม่ถูกนะคะ

การออกเสียง ed ที่ถูกต้อง

คำกิริยาในภาษาอังกฤษที่ลงท้ายด้วย ed ทั้งหมด มีการออกเสียงที่ถูกต้องรวม 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าตัวอักษรสุดท้ายของคำกิริยานั้น

ออกเสียง เหมือนอักษรอะไร

ย้ำว่าออกเสียงนะครับ ไม่ใช่สะกดด้วยตัวอะไร

ถ้าอักษรตัวสุดท้ายออกเสียงเหมือน…

  1. t หรือ d ให้ออกเสียง ed เป็น “สระเอ็ด” เช่น texted = เท็กซ์-เต็ด หรือ headed = เฮด-เด็ด สังเกตุว่าเราจะต้องออกเสียงเพิ่มอีก 1 พยางค์คือ “เต็ด” หรือ “เด็ด” นั่นเอง
  2. p หรือ f หรือ s หรือ sh หรือ ch หรือ k เจ้า ed จะถูกออกเสียงเหมือนตัว “t” หรือ “เทอะ” เช่น trashed = แทรช-เทอะ หรือ liked = ไลค์-เทอะ ตรง “เทอะ” จะออกเสียงเบาๆ แบบออกเสียงตัวสะกด แต่ไม่ใช่การออกเสียงเพิ่มอีกหนึ่งพยางค์เหมือนสระเอ็ด (เห็นไหมครับ like ซึ่งตัวสุดท้ายสะกดด้วยตัว e แต่ออกเสียงเป็นตัว k …  เราดูว่ามันออกเสียงเหมือนตัวอะไร ไม่ใช่สะกดด้วยตัวอะไร)
  3. ตัวอื่นที่เหลือทั้งหมด ให้ออกเสียง ed เป็นเหมือนเสียง “d” หรือ “เดอะ” เช่น bombed = บอมบ์-เดอะ หรือ played = เพล์ย-เดอะ แน่นอน “เดอะ” จะออกเสียงเบาๆ เหมือนกับ “เทอะ”

สำหรับหลายๆ ท่านออกเสียงตามข้างบนก็พอละ ไม่ต้องสนใจสิ่งที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้ก็ได้…เดี๋ยวจะงง

แต่ถ้าใครอยากรู้เพิ่ม..ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่รู้จะรู้ไปทำไม ก็เชิญอ่านต่อได้เลยครับ…

  • คำกิริยาในข้อ 2 เฉพาะอักษรตัวสุดท้ายเวลาออกเสียง เราจะใช้เพียงปาก และ ช่องปาก ในการออกเสียงโดยไม่มีการใช้คอ (บางคนก็ว่าเส้นเสียง) แต่อย่างใด ลองเอามือจับที่คอคุณแล้วออกเสียง “เพอะ” ซึ่งคือเสียงของตัว “p” คุณจะไม่รู้สึกว่ามีการสั่นที่ลำคอ..เพราะคุณใช้แค่ปากในการออกเสียงนั่นเอง ลองออกเสียงตัวอื่นๆ ในหมวดนี้ดูแล้วคุณจะเข้าใจ ซึ่งอักษรเหล่านี้ภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า “unvoiced” หรือ “voiceless” ซึ่งการออกเสียง ed จะออกเหมือนเสียง “t”
  • ส่วนคำกิริยาในข้อ 3 จะเรียกว่า “voiced” ซึ่งเวลาเราออกเสียง เอามือจับที่คอจะรู้สึกถึงการสั่นในลำคอ การออกเสียง ed จะออกเสียงเหมือน “d”
  • ถ้าหากคำที่ลงท้ายด้วย ed เป็น Adjective ไม่ใช่ Verb จะออกเสียง ed เป็น “สระเอ็ด” เสมอ เช่น an aged man = แอน-เอจ-เจ็ด-แมน (aged เป็น adjective) ส่วนเมื่อเป็นกิริยาเข่น you aged quickly = ยู-เอจ-เดอะ-ควิก-ลี่

 

ขอให้มีความสุขและสนุกไปกับการฝึกออกเสียงนะครับ

หรือถ้าอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษอีกก็ลองอ่าน 5 เคล็ดลับพูดภาษาอังกฤษเก่งใน 1 สัปดาห์ ดูครับ

ถ้าอ่านแล้วรู้สึกเหมือนจะได้ประโยชน์…แชร์เลยครับ!!!





Search

Tag Cloud

Digital Marketing IT OST. ฟ. ฮีแลร์ OST. ฟ. ฮีแลร์ ครูฝรั่งแห่งสยามประเทศ SEM SEO smartphone SMM Strategy UI User Experience UX การขุนปลาเสือตอ การออกแบบเว็บที่ดี การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์ที่ดี การเลี้ยงปลาเสือตอ ความหวังในการเพาะพันธุ์ ปลาเสือตอ ความเป็นมาของปลาเสือตอ คุณลักษณะของเว็บไซต์ที่ดี ตู้ปลา ปฏิจจสมุปบาท ประสบการณ์ชีวิต ปลาสวยงาม ปลาเสือตอ ปลาเสือตอพันธุ์ไทย ปลาเสือตอลายคู่ ปลาเสือตอลายใหญ่ ปลาเสือตอเขมร พระมหาชนก พุทธศาสนา ฟ.ฮีแลร์ ครูฝรั่งแห่งสยามประเทศ ภาพยนตร์ ฟ. ฮีแลร์ รัชกาลที่ 9 วิธีดูปลาเสือตอ วิธีเลี้ยงปลาเสือตอ ศาสนาพุทธ องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดี ฮวงจุ้ย ฮวงจุ้ยที่ทำงาน เหรียญพระมหาชนก เหรียญพระมหาชนกพิมพ์เล็ก เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ โรงเรียนอัสสัมชัญ ในหลวง