Blog

พฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตปี 59 ของประเทศไทย ได้ถูกเปิดเผยโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคหรอนิคส์ (ETDA) ให้ได้รับทราบและนำไปให้ประโยชน์กัน

ดาวน์โหลด พฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ดปี 59หากท่านต้องการดาวย์โหลดผลสำรวจฉบับเต็ม กดที่รูปหนังสือได้เลยครับ

 

ETDA เผยพฤติกรรมผู้ใช้เน็ตปี 59 ชี้เทรนด์ใหม่มาแรง ชงรัฐ-เอกชน จับตา 3G/4G ยังต้องปรับปรุง

นักท่องเน็ตผ่านมือถือโต 9% จาก 5.7 ชม./วัน ในปี 58 เป็น 6.2 ชม./วัน โดยใช้ช่วง 4 โมงเย็นถึงสองทุ่มมากสุด เพศที่ 3 และเจน Y ใช้เน็ตผ่านมือถือสูงสุด เจน X ขึ้นไปเน้นไลน์ เจน Z และ Y นิยมท่องยูทูบ ชี้คนยุคนี้ใช้เน็ตเพื่อ ‘แชต ชม อ่าน’ 

  

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงไอซีที จัดงานแถลงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2559 (Thailand Internet User Profile 2016) โดยได้รับเกียรติจาก จีราวรรณ บุญเพิ่มประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหาร ETDA เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และ สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA เป็นผู้แถลงผลการสำรวจฯ ท้ายงานยังจัดให้มีการมอบรางวัลใหญ่แก่ผู้โชคดีจากการร่วมตอบแบบสำรวจ เมื่อบ่ายวันพุธที่ 24 สิงหาคม 2559 ณ ห้อง Universe 1 ศูนย์ประชุมสเปซ ชั้น 12 อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์พระรามเก้า

ผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในปีนี้ มีมิติในเชิงที่ลึกขึ้น ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งผ่านสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ อย่างครอบคลุมและน่าเชื่อถือ หลังจากการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4 G เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีการเปิดให้บริการเทคโนโลยี 4G อย่างเป็นทางการในปีนี้ และส่งผลอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

สุรางคณา เผยว่า การนำเสนอผลการสำรวจในปีนี้ มีการนำพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตมาจำแนกเป็นรายเจนเนอเรชัน ทั้งบนสมาร์ตโฟน แทปเล็ต และบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก เพื่อให้เข้าใจง่าย ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่อาศัยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวของเพศ อายุ การศึกษา สถานภาพการทำงาน และรายได้ ที่สอดคล้องกับโครงสร้างประชากร สามารถนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มได้ ได้แก่ Gen Z (เกิดปี 2544 เป็นต้นไป) Gen Y (เกิดปี 2524-2543) Gen X (เกิดปี 2508-2523) และ Baby Boomer (เกิดปี 2489-2507)

 

จากการสำรวจพบว่า จำนวนชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตในภาพรวมทั้งผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 45.0 ชม./สัปดาห์ หรือคิดเป็นระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ย 6.4 ชม./วัน โดยเพศที่สาม และ Gen Y เป็นกลุ่มที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ที่ 48.9 ชม./สัปดาห์ และ 53.2 ชม./สัปดาห์ ตามลำดับ

สมาร์ตโฟนยังคงเป็นอุปกรณ์หลักที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 85.5% และมีจำนวนชั่วโมงการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 ชม./วัน ซึ่งทั้งจำนวนผู้ใช้งานและจำนวนชั่วโมงการใช้งานของปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2558 มีจำนวนผู้ใช้งาน 82.1% และมีจำนวนชั่วโมงการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ชม./วัน เท่านั้น

  

ช่วงเวลาเรียน/ทำงาน (08.01–16.00 น.) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นอุปกรณ์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยช่วงเวลา 08.01–12.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนนิยมใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด คิดเป็น 64.5% ขณะที่ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน/ทำงานจนถึงเช้า (16.01–08.00 น.) สมาร์ตโฟนเป็นอุปกรณ์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยช่วงเวลา 16.01–20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนนิยมใช้สมาร์ตโฟนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด คิดเป็น 68.4%

สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ คิดเป็น 29.3% ใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างการเดินทางในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่พักอาศัยในต่างจังหวัด ซึ่งมีเพียง 10.3% เท่านั้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตของคนกรุงเทพฯ ที่ดีและพร้อมกว่าต่างจังหวัด และตลอดจนคนกรุงเทพฯ ประสบปัญหาสภาพการจราจรที่แออัดหนาแน่นกว่าต่างจังหวัด ทำให้คนกรุงเทพฯ นิยมที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น/ใช้งานในระหว่างรถติด

กิจกรรมยอดนิยม 5 อันดับแรกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมทำผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ได้แก่ การพูดคุยผ่าน Social Network (86.8%) รองลงมา เป็นการดูวิดีโอผ่าน YouTube (66.6%), การอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (55.7%), การค้นหาข้อมูล (54.7%) และการทำธุรกรรมทางการเงิน (45.9%) ตามลำดับ

ในส่วนของสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับ พบว่า อันดับแรก ได้แก่ YouTube มีผู้ใช้งานมากถึง 97.3% รองลงมา คือ Facebook และ Line มีผู้ใช้งานคิดเป็น 94.8% และ 94.6% ตามลำดับ โดยกลุ่มที่ใช้งาน YouTube มากที่สุดได้แก่ Gen Y และ Gen Z คิดเป็น 98.8% และ 98.6% ตามลำดับ ขณะที่ 2 กลุ่มนี้ใช้ Facebook คิดเป็น 97.9% และ 93.8% ตามลำดับ เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 คือ Line คิดเป็น 97.2% และ 91.4% ตามลำดับ ในขณะที่ Line เป็นแอปพลิเคชันที่กลุ่ม Baby Boomer และ Gen X นิยมใช้ในการติดต่อสื่อสารมากที่สุด คิดเป็น 91.5% และ 96.2% ตามลำดับ รองลงมา คือ YouTube คิดเป็น 89.3% และ 95.3% ตามลำดับ ส่วนอันดับ 3 คือ Facebook คิดเป็น 86.5% และ 93.9% ตามลำดับ

เมื่อทำการสำรวจด้านความถี่ในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์แต่ละประเภท พบว่า Facebook ยังคงเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการใช้งานบ่อยที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมา เป็น Line และ YouTube โดยมีสัดส่วนของผู้ใช้งาน คิดเป็น 84.2, 82.0 และ 76.9% ตามลำดับ

ในด้านปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต จากผลการสำรวจ พบว่า ปัญหาอันดับแรก ได้แก่ ความล่าช้าในการเชื่อมต่อ/ใช้อินเทอร์เน็ต (70.3%) รองลงมา เป็นเรื่องของปริมาณโฆษณาที่มารบกวน (50.7%), การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยาก/หลุดบ่อย (32.7%), เสียค่าใช้จ่ายแพง (26.8%) และการให้บริการอินเทอร์เน็ตยังไม่ทั่วถึง (21.2%) ตามลำดับ

สิ่งที่อยากเน้นให้ความสำคัญคือ ความตื่นตัวและความตระหนักของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างประเทศที่อยากเห็นบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยพบว่า คนไทยอาจถูกขโมยข้อมูลส่วนบุคคลค่อนข้างง่ายและมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะก่อให้เกิดปัญหาเช่นที่ปรากฏเป็นข่าวกรณี K-Cyber ที่ผ่านมา ข้อมูลส่วนบุคคลถูกขโมยได้ง่ายมาก ทั้งที่ให้เองและแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งการตั้งคำถามที่มีชั้นความลับเพื่อเข้าสู่รหัสผ่านบางครั้งก็คาดเดาได้จากข้อมูลต่าง ๆ ที่ตัวเจ้าของเปิดเผยเอง ปัญหาเรื่องการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมาคู่กับการออกกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลหรือกระทรวงไอซีทีให้ความสนใจเป็นพิเศษ และอยู่ระหว่างการผลักดัน ต่อมาคือเรื่องการถูกหลอกบนโลกออนไลน์ ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้คนไทยไม่สนใจมากนัก เพราะสนใจแล้วไม่รู้จะพึ่งใคร เป็นเหตุผลที่ทำให้ ETDA ลุกขึ้นมาทำเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกับหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาคประกันภัย เพราะเกี่ยวข้องกับข้อมูลชีวิตและสุขภาพของคน เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ที่จะต้องตระหนักและแก้ปัญหาไปร่วมกันอย่างเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ในความคิดเห็นของผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านระบบ 3G/4G ปัญหาสำคัญที่สุด 3 อันดับแรกที่เกิดจากการใช้งานระบบ 3G/4G อันดับแรก เป็นเรื่องของความสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ ต้องหมั่นคอยชาร์จ รองลงมา เป็นเรื่องของการใช้งาน 4G ในบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณอ่อน และค่าใช้จ่ายในการใช้งานค่อนข้างสูง คิดเป็น 70.4, 64.7 และ 40.2% ตามลำดับ

ข้อมูลเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั้งผ่านสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ พอจะสรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบการสื่อสารจากการแชตในสังคมออนไลน์มากที่สุด ขณะที่การชมยูทูบเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่เป็นที่นิยม สำหรับการอ่านอีบุ๊กคนไทยยังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับ 3 ทั้งหมดช่วยให้ง่ายในการประเมินต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งภาครัฐ เอกชน และคนทั่วไป ที่จะใช้ในการต่อยอดในการเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงเป็นกำลังใจให้วงการดิจิทัลคอนเทนต์ที่จะสร้างสรรค์งานดี ๆ ต่อไป

ETDA หวังว่า ผลการสำรวจนี้จะเป็นประโยชน์ยิ่งสำหรับหน่วยงานภาครัฐที่จะนำไปใช้ในการวางแผนและกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ และแบรนด์สินค้า ในการนำข้อมูลผลการสำรวจไปใช้ประกอบการจัดทำแผนธุรกิจหรือปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการหรือพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิผล อันจะส่งผลให้การทำธุรกรรมออนไลน์ของประเทศมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังจะมีส่วนในการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เท่าทันต่อแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลพวงจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคนี้

 

ที่มา : ETDA

 





Search

Tag Cloud

Digital Marketing IT OST. ฟ. ฮีแลร์ OST. ฟ. ฮีแลร์ ครูฝรั่งแห่งสยามประเทศ SEM SEO smartphone SMM Strategy UI User Experience UX การขุนปลาเสือตอ การออกแบบเว็บที่ดี การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์ที่ดี การเลี้ยงปลาเสือตอ ความหวังในการเพาะพันธุ์ ปลาเสือตอ ความเป็นมาของปลาเสือตอ คุณลักษณะของเว็บไซต์ที่ดี ตู้ปลา ปฏิจจสมุปบาท ประสบการณ์ชีวิต ปลาสวยงาม ปลาเสือตอ ปลาเสือตอพันธุ์ไทย ปลาเสือตอลายคู่ ปลาเสือตอลายใหญ่ ปลาเสือตอเขมร พระมหาชนก พุทธศาสนา ฟ.ฮีแลร์ ครูฝรั่งแห่งสยามประเทศ ภาพยนตร์ ฟ. ฮีแลร์ รัชกาลที่ 9 วิธีดูปลาเสือตอ วิธีเลี้ยงปลาเสือตอ ศาสนาพุทธ องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดี ฮวงจุ้ย ฮวงจุ้ยที่ทำงาน เหรียญพระมหาชนก เหรียญพระมหาชนกพิมพ์เล็ก เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ โรงเรียนอัสสัมชัญ ในหลวง