วีโอไอพีแบบ ‘soodsood’

วีโอไอพีแบบ ‘soodsood’

เอกรัตน์ สาธุธรรม

ที่มา : กรุงเทพฯธุรกิจ

 
“วีโอไอพี” (VOIP) หรือโทรศัพท์ผ่านเน็ต กลายเป็นบริการที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในแวดวงเทคโนโลยี ด้วยค่าโทรที่ถูกกว่าการโทรปกติกว่าครึ่ง ไม่แปลกเลยที่บรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรวมไปถึงโอเปอเรเตอร์มือถือในบ้านเรา จ่อคิวเปิดบริการที่ว่ากันอย่างคึกคัก “สวัสดีช้อป จำกัด” บริษัทที่สร้างชื่อมาจากธุรกิจ “อี-คอมเมิร์ซ” วันนี้ไม่ขอตกกระแสเหล่าพี่เบิ้มในวงการไอทีสื่อสาร เปิดบริการวีโอไอพีเป็นที่เรียบร้อยผ่านเวบไซต์ชื่อเก๋ไก๋ www.soodsood.com (สุดสุดดอทคอม)
“นิรันดร ทนงศักดิ์มนตรี” ซีโอโอ บริษัทสวัสดีช้อป จำกัด เล่าว่า สุดสุดดอทคอมเป็นเวบไซต์ที่ให้บริการวีโอไอพีอย่างเต็มรูปแบบ โดยให้บริการใน 2 ประเภทหลัก คือ “พีซีทูพีซี” และ “พีซีทูโฟน” มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาอายุระหว่าง 15-25 ปี และกลุ่มคนวัยทำงาน

“สุดสุดดอทคอมเป็นหนึ่งในธุรกิจของสวัสดีช้อป จำกัด ที่ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจด้านอี-คอมเมิร์ซ แต่วันนี้เราเห็นว่าบริการวีโอไอพีเป็นกระแสโลก เป็นเหมือนไฟลต์บังคับให้ผู้ที่อยู่ในวงการนี้ต้องเดินไป โดยสุดสุดดอทคอม ได้รับใบอนุญาตประเภท1 จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.)” นิรันดร เล่า

เขาบอกว่า สุดสุดดอทคอมเป็นผู้ให้บริการส่งข้อความเสียงแบบทันที ซึ่งเป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของบริการส่งข้อความทันใจ เทคโนโลยีของสุดสุดดอทคอม มีความร่วมมือกับบริษัท TelTel (www.teltel.com) ผู้นำทางด้านบริการโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้มาตรฐานแบบเปิดที่เรียกว่า SIP (Session Initiation Protocol) ในการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาสินค้า และบริการเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริการสุดสุดดอทคอมในอนาคตได้

“เป้าหมายของเราค่อนข้างจะเป็นวัยรุ่นนิดหนึ่งอายุประมาณ 15-25 ปีซึ่งวัยนี้จะเป็นวัยที่ชอบใช้อินเทอร์เน็ต แชท กับเพื่อน ใช้ชีวิตบนเน็ต กลุ่มเป้าหมายนี้จะเหมาะกับบริการพีซีทูพีซี เพราะเป็นการใช้ฟรี คิดเป็น 80% ของกลุ่มลูกค้า ส่วนที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน เป็นอีกกลุ่มลูกค้าสำคัญ จะเหมาะกับบริการพีซีทูโฟน กลุ่มหลังนี้จะเป็นกลุ่มที่ใช้งานจริง ทั้งโทรไปต่างประเทศ โทรทางไกล” เขา เล่า

นิรันดร บอกว่า สำหรับบริการพีซีทูโฟน ลูกค้าจะต้องซื้อบัตรเติมเงินเพื่อไว้ใช้โทร โดยต้องเติมเงินผ่านหน้าจอของสุดสุดดอทคอม วิธีการใช้ก็จะคล้ายกับการใช้บัตรเติมเงินในโทรศัพท์มือถือ บัตรที่ว่ามีตั้งแต่มูลค่า 100,250,และสูงสุด 1,000 บาท ซึ่งจะไม่มีวันหมดอายุการใช้งาน

“ถ้าถามถึงทิศทางธุรกิจ เราก็เหมือนกับ สไกป์, เอ็มเอสเอ็น, กูเกิล แต่เราคงต้องมีอะไรไปแข่งกับเขาให้มากกว่านี้ โดยจะเน้นไปที่บริการเสริมที่ต่อยอดจากบริการวีโอไอพีที่เราทำ ยกตัวอย่าง ขณะนี้เรากำลังไปเจรจากับทางค่ายเพลงว่า ให้ลูกค้าที่มีบัตรเติมเงินของสุดๆ ใช้ซื้อเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตได้ หรือไปคุยกับคนทำริงโทน สกรีนเซอร์เวอร์ ที่ลูกค้าสามารถซื้อคอนเทนท์เหล่านี้ผ่านบัตรเติมเงินของสุดๆ ได้ เป็นต้น”

ซีโอโอ สวัสดีช้อป ยังบอกด้วยว่า หลังจากเปิดตัวเวบไซต์สุดสุดดอทคอมไปเมื่องาน “ไอซีที เอ็กซ์โป” ที่ผ่านมา ปรากกฏว่า ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทั้งในกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน โดยหลังจากนี้บริษัทจะเริ่มทำโรดโชว์ไปยังสถาบันการศึกษา ส่วนบริการพีซีทูโฟนที่ต้องใช้บัตรเติมเงิน จะเริ่มเปิดขายบัตรผ่านเวบในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

“ผมมองว่าแนวโน้มในอนาคตของวีโอไอพี มันต้องเดินไปข้างหน้าแน่นอน อย่างที่บอกว่า มันเป็นกระแสโลกไอเอสพีทุกรายต้องทำอยู่แล้ว ทุกคนกระโดดลงมาทำแน่นอน เมื่อผู้ให้บริการมากขึ้น มีการ educate ตลาดมากขึ้น แน่นอนจำนวนคนใช้ย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วยวันนี้คนใช้อินเทอร์เน็ตมีประมาณ 10 ล้านคน ผมเชื่อว่าปลายปีนี้ ต้องมีสัก 1 ล้านคนที่ใช้วีโอไอพี” นิรันดร บอกอย่างมั่นใจ

สำหรับสุดสุดดอทคอม เขาบอกว่า ปลายปีนี้ขอให้ชื่นใจสัก 100,000 ราย ก็ถือเป็นทิศทางที่ดีแล้ว โดยบริการที่จะได้รับความนิยมมากน่าจะเป็นบริการวีโอไอพีแบบ “พีซีทูพีซี”

นิรันดร ยังเล่าถึงธุรกิจของสวัสดีช้อปว่า วันนี้ภาพธุรกิจเปลี่ยนไปแล้วจาก “อี-คอมเมิร์ซ” มาเป็น “ผู้ให้บริการวีโอไอพี” อย่างเต็มตัว

“สุดสุดเป็นบริการหนึ่งในสวัสดีช้อป โดยภาพรวมของสวัสดีช้อป ต้องบอกว่าเราเปลี่ยน เปลี่ยนจากอี-คอมเมิร์ซ มาเป็นวีโอไอพี ธุรกิจหลักของเรานับจากนี้คือ วีโอไอพี แต่จะมีแบรนด์ใหม่ๆ ที่มาจากเทคโนโลยีนี้เพิ่มขึ้น เรามีโครงสร้างทางธุรกิจอยู่แล้ว บริการที่ออกมาก็จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิม แต่ให้บริการที่แตกต่างออกไป”

ซีโอโอ สวัสดีช้อป บอกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริการวีโอไอพี ประสบความสำเร็จในไทย อยู่ที่การ educate ตลาด เพราะยังมีคนไทยอีกมาก ที่ไม่รู้ว่าวีโอไอพีให้อะไรกับเขา ช่วยอะไรได้บ้างแน่นอนว่าไทยต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้ อย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี

“เรื่องราคา อัตราค่าโทรเป็นสิ่งสำคัญ โทรไปอเมริกา อังกฤษ ราคาเท่าไหร่ คนที่มีบริการวีโอไอพีที่ถูกกว่าย่อมได้เปรียบ ที่สำคัญเรื่องของคุณภาพเสียงต้องดี ต้องชัดเหมือนกับคุยผ่านโทรศัพท์บ้าน หรือโทรศัพท์มือถือ ผมเชื่อว่ามูลค่าตลาดของวีโอไอพี ผมมองอย่างนี้ ถ้ามีคนใช้ 1 ล้านคน 10% คือ ประมาณ 1 แสนคน ขอให้ใช้บริการวีโอไอพีเดือนละ 100 บาท ปีหนึ่งก็จะอยู่ที่ 120 ล้านบาท”

เมื่อถามว่า ทำไมถึงตั้งชื่อว่า “สุดสุดดอทคอม” นิรันดร บอกว่า ชื่อมันใช่ คือบริการในสุดสุดดอทคอมนั้นต้องถูกสุด ดีสุด อะไรที่เป็นสุดสุด ในอนาคตจะมารวมอยู่ในเวบนี้ทั้งหมด..